กระชายขาว ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงของภาวะโรคระบาดจากเชื้อไวรัส อย่างโรคโควิด (Covid-19) จึงมีการทดลองและพัฒนา สารสกัดกระชายขาว เพื่อใช้เป็นยายับยั้งเชื้อไวรัส โดยความสำเร็จมาจากนักวิจัยของ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า “สารสกัดกระชายขาว” มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสได้

งานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือของคณะวิทยาศาสตร์ และ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์(องค์การมหาชน)  หรือ TCELS พบว่า สารสกัดกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตและการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส  อีกทั้งยังสามารถลดจำนวนเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสได้กว่า 100%

สารสกัดกระชายขาว มีสารสำคัญ 2 ตัวคือ

  1. PandulatinA (แพนดูเรทีน-เอ) ซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากเหง้าของกระชายขาว มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรค ทั้งการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อนเข้าสู่เซลล์หรือการป้องกันการติดเชื้อ และการยับยั้งไวรัสภายหลังจากไวรัสเข้าสู่เซลล์หรือการรักษาภายหลังการติดเชื้อแล้ว จึงค่อนข้างมีความปลอดภัยต่อการนำมาใช้
  2. Pinostrobin (พิโนสโตรบิน) เป็นองค์ประกอบทางเคมีชนิดหลักที่พบในกระชายขาว ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย เช่น ต้านเชื้อแคนดิดาอัลบิแคนส์ ต้านเชื้อไวรัส ต้านออกซิเดชัน ต้านอักเสบ ต้านลิวคิเมีย ต้านเอนไซม์อโรมาเทส (anti-aromatase) ต้านเซลล์มะเร็งเต้านม ปกป้องเซลล์ประสาท

“กระชาย” (finger root) หรือ ขิงจีน เป็นพืชวงศ์ขิง มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Boesenbergia rotunda เป็นพืชสมุนไพร (herb) และเครื่องเทศ (spice) กระชาย ถือว่าเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่คนไทยคุ้นเคย กันมานานแล้ว จะมีถิ่นกำเนิด ในแถบร้อนอยู่ที่บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะพบขึ้นอยู่บริเวณในป่าดิบร้อนชื้น

กระชายเป็นไม้ลมลุกที่มีลำต้นอยู่ใต้ดินซึ่งจะเรียกว่า เหง้า และเหง้าที่อยู่ใต้ดินจะแตกรากออกไปเป็นกระจุกจำนวนมากจะเป็นที่สะสมอาหาร ส่วนตรงกลางจะพองกว้างกว่าส่วนหัวและส่วนท้าย ส่วนเนื้อด้านในจะมีสีแตกต่างไปตามชนิดของกระชายและจะมีกลิ่นหอม

เหง้ากระชาย นี้จะมีน้ำมันหอมระเหยและมีสารสำคัญหลายชนิดสะสมอยู่ซึ่งจะมีสรรพคุณในการดับกลิ่นคาวและเป็นสารที่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรหลายชนิดสารทีว่านี้คือ สารแคมฟีน (Camphene) ทูจีน (Thujene) และการบูร และในกระชายยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายซึ่งจะพบตรงเหง้าของกระชาย คือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินต่าง ๆ ซึ่งมีประโยชน์แก่ร่างกาย

กระชาย มี 3 ชนิด

  • ชนิดที่ 1 คือ กระชายขาว กระชายเหลือง หรือเรียกว่า กระชายแกง ซึ่งเป็นกระชายที่นำมาปรุงอาหารใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกง โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารกันมากที่สุดคือ รากสะสมอาหาร หรือที่เรียกว่า “นมกระชาย” ซึ่งรากกระชายนี้จะมีกลิ่นหอม เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี

สารสกัดกระชายขาว

  • ชนิดที่ 2 คือ กระชายแดง เป็นสมุนไพรหายาก ส่วนใหญ่หมอยาพื้นบ้านใช้ในตำรับยารักษาโรคมะเร็งตามศาสตร์การแพทย์พื้นบ้าน และจากงานวิจัยในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทำการค้นคว้าทดลองและคิดค้นตำรับยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ หลายตำรับและใช้รักษาผู้ป่วยอยู่จนถึงปัจจุบัน

สารสกัดกระชายขาว

  • ชนิดที่ 3 คือ กระชายดำ (Black Ginger) เป็นหนึ่งในสามของสมุนไพรที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกและภาคีเครือข่ายคัดเลือกให้เป็น ผลิตภัณฑ์หรือสมุนไพรต้นแบบ เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพสูงในเชิงพาณิชย์ ได้รับความนิยมเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่ใช้ทำยาอายุวัฒนะ บำรุงสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งไวน์กระชายดำและน้ำหมักกระชายดำ

 

สารสกัดกระชายขาว

“สมุนไพรกระชาย” มีสรรพคุณทางยานานับประการ จนได้ชื่อในวงการแพทย์แผนไทยว่าเป็น “โสมไทย” เนื่องจากกระชายกับโสมมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง ลักษณะเด่นของสมุนไพรทั้งสองชนิด เช่น สรรพคุณในการบำรุงกำลังและเสริมสมรรถภาพทางเพศ กระชายและโสมต่างก็เป็นพืชที่มีส่วนสะสมอาหารที่ใช้เป็นยาอยู่ใต้ดิน สามารถเรืองแสงในที่มืดได้เหมือนกันด้วย บางครั้งเราจะเรียกโสมว่า “โสมคน” และเรียกกระชายว่า “นมกระชาย” มีลักษณะที่คล้ายกับรูปร่างของคนเหมือนๆกัน (กระชายมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับนมผู้หญิง และบางครั้งก็ดูคล้ายเพศชาย ทำให้เกิดความเชื่อ ที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องในเรื่องสรรพคุณทางเพศ)

ผลงานวิจัยเพิ่มเติม เกี่ยวกับ สารสกัดกระชายขาว

  1. สารสกัดกระชายขาว สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด (Covid-19) ได้ ผลจากงานวิจัยอ้างอิงศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) (TCELS) คณะวิทยาศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  2. สาร Pinostrobin สารสกัดกระชายขาวยังมีฤทธิ์ช่วยต้านการเจริญเติบโตของเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกลาก 3 ชนิด และช่วยต้านการเจริญของเชื้อ Candida albican ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการตกขาวในสตรี เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล
  3. สารสกัดจากกระชายสามารถช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกอ่อนในหลอดทดลองได้ จากงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  4. สาเหตุของการเกิดโรคมาลาเรีย รากและใบของกระชายนั้นได้มีงานวิจัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin มีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อ Plasmodium falciparum
  5. งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พบว่าสารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากของกระชายมีฤทธิ์ในการต้านการเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  6. สารสกัดกระชายอีก 4 ชนิด มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรค อย่างแบคทีเรียได้หลายชนิด จากงานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบ สาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้
  7. งานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่าด้วยการผลิตสารออกฤทธิ์จากกระชายเหลืองหรือสารสกัดกระชายขาว ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อผิวขาว
  8. งานวิจัยของ นายแพทย์นพรัตน์ บุญยเลิศ ในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงเล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับสมุนไพร ทรงให้มีการศึกษา ส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาและอนุรักษ์สมุนไพร อย่างโครงการสวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อนที่พบว่า กระชายแดงรักษามะเร็งเม็ดเลือด และมะเร็งกระดูก

กระชายสมุนไพรมากด้วยสรรพคุณ

เนื่องจากว่า สารสกัดกระชายขาว มีสารต่างๆที่มีคุณประโยชน์ที่ดีกับร่างกาย ทั้งภายในและ ภายนอก ในส่วนรากและส่วนต้นของกระชายขาว จะประกอบด้วยสาร alpinetin, pinocembrin, boesenbergin A, pinostrobin, น้ำมันหอมระเหย (essential oil), สาร cardamonin ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็งได้อีกด้วย

กระชาย จึงมีสรรพคุณมากมาย ที่ช่วยในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของคนไทยมาอย่างช้านาน ตำรายาไทยใช้เหง้ากระชาย ในการแก้อาการของโรคต่างๆ นอกจากนั้น กระชายยังมีประโยชน์ทางสมุนไพร ส่วนที่ใช้ประโยชน์เพื่อบริโภค คือเหง้า เหง้ากระชายขาวใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงบางอย่าง ส่วนใหญ่เป็นแกงที่ใช้ปลา เช่น น้ำยาปลา แกงส้ม แกงเลียง เนื่องจากกลิ่นรสที่เผ็ดร้อนและรสขมของกระชายขาวจะช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้ดี

39 สรรพคุณของกระชาย

  1. สรรพคุณในการบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ
  2. สรรพคุณในการบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคนกเขาไม่ขันหรือโรคอีดี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหง้าใต้ดิน)
  3. สรรพคุณช่วยบำรุงกระดูก ช่วยทำให้กระดูกไม่เปราะบาง
  4. สรรพคุณแก้วิงเวียน แน่นหน้าอก
  5. สรรพคุณแก้ท้องเดิน ท้องร่วง ปวดท้องบิด
  6. สรรพคุณแก้แผลในปาก ปากเปื่อย ปากแห้ง ฝ้าขาวในปาก
  7. สรรพคุณรักษาฝี รักษาขี้กลาก ขี้เกลื้อน
  8. สรรพคุณช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง
  9. สรรพคุณช่วยแก้อาการปวดเมื่อย บำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง
  10. สรรพคุณขับระดูขาวของสตรี บำรุงมดลูก
  11. สรรพคุณขับปัสสาวะ
  12. สรรพคุณทางยาใช้ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  13. สรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงหัวใจด้วยการใช้เหง้าและรากของกระชายมาหั่นตากแห้งแล้วบดจนเป็นผงนำมาชงกับน้ำร้อนครึ่งถ้วยชา แล้วรับประทาน
  14. ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย
  15. ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากขึ้น
  16. ช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิตในร่างกาย
  17. ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
  18. ช่วยแก้อาการไส้เลื่อนในเพศชาย ควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต
  19. ใช้น้ำมันกระชายแก้อาการคันหนังศีรษะจากเชื้อรา
  20. แก้ปัญหาโรคผิวหนัง ด้วยเหง้า มีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อรา
  21. กระชายมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ ป้องกันการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรัง
  22. เป็นยาต้มใช้ดื่มบำรุงและช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตาและไต
  23. ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร
  24. ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร
  25. ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ และมีอาการเหนื่อยล้า
  26. ช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า
  27. ช่วยรักษาฝีด้วยการใช้เหง้ากับรากมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาทาหัวฝีที่บวม จะทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น
  28. กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ช่วยต้านการก่อการกลายพันธุ์
  29. รากกระชายสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
  30. ช่วยกระตุ้นระบบประสาท บำรุงประสาท
  31. ช่วยในการนอนหลับ แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน ช่วยทำให้นอนหลับดีขึ้น
  32. ช่วยระบบหมุนเวียนโลหิตของร่างกาย ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น
  33. ช่วยทำให้เจริญอาหาร
  34. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  35. ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้
  36. ช่วยแก้หอบหืด
  37. ช่วยแก้อาการใจสั่นหวิว แก้ลมวิงเวียน
  38. ช่วยขับประจำเดือน แก้อาการประจำเดือนมาไม่เป็นปกติของสตรี
  39. ช่วยขับน้ำนม รักษาอาการตกเลือด และช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น สำหรับสตรีหลังคลอดบุตร

ประโยชน์ของกระชาย

  1. ประโยชน์กระชาย สามารถนำมาทำเป็นน้ำกระชายปั่น ดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี
  2. น้ำกระชายช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ช่วยทำให้เหนื่อยลง
  3. ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง เปลี่ยนผมขาวให้กลับเป็นดำ ช่วยทำให้ผมบางกลับมาหนาขึ้น และช่วยแก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วงได้
  4. รากนำมาใช้เป็นเครื่องแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อและปลาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เป็นต้น และยังทำให้อาหารมีกลิ่นและรสที่หอมแบบเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
  5. รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนำตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นำมาตำผสมกันแล้วใช้ผสมกับน้ำฉีดในบริเวณที่มีแมลงรบกวน

เมนูอาหารกระชายยับยั้งเชื้อไวรัส

ในยุคที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่างมองหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย สมุนไพรไทยอย่างกระชาย สามารถทำเมนูอาหารอะไรได้บ้าง? เมนูอะไรบ้าง? ที่เหมาะกับคนไทยในช่วงโรคระบาดจากเชื้อไวรัส เมนูกระชายหลากหลายทั้งอาหารและเครื่องดื่มหลากสไตล์ เสริมภูมิคุ้มกัน มีประโยชน์ ต้านโรคร้าย “สมุนไพรไทย อร่อยง่ายถึงใจได้สุขภาพใน 5 นาที”

น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว

น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว เมนูเครื่องดื่มต้านไวรัสโรคร้ายได้ดีจากทั้ง กระชาย น้ำผึ้ง และ มะนาว มากด้วยสรรพคุณที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย

สารสกัดกระชายขาวคุณประโยชน์จากสารสกัดกระชายขาว มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสได้ เพิ่มความสดชื่น บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ช่วยทำให้เหนื่อยลง ร่วมกับ

คุณประโยชน์ของน้ำผึ้ง ปลุกความสดชื่นให้ร่างกาย ในน้ำผึ้งมีฟรุกโตสและกลูโคสจากธรรมชาติร่างกายจึงดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ง่าย น้ำผึ้งเองมีฤทธิ์คล้าย ๆ โพรไบโอติก จึงช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ได้ อีกทั้งด้วยความที่มีคุณสมบัติคล้ายยาปฏิชีวนะชนิดเบา น้ำผึ้งจึงช่วยกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายในลำไส้ได้พอสมควรด้วย

คุณประโยชน์ของมะนาว กรดซิตริกในน้ำมะนาวก็มีฤทธิ์ช่วยลดไข้บรรเทาอาการกระหายน้ำ ช่วยให้ลำคอชุ่มชื้นและมีวิตามินซียั้งมีสรรพคุณช่วยแก้อาการหวัดไดอีกทั้งกลิ่นซิตรัสและรสชาติเปรี้ยวของมะนาวก็ยังช่วยเติมความสดชื่น

ประโยชน์เครื่องดื่ม กระชายน้ำผึ้งมะนาว

  1. แก้ไอ ในน้ำมะนาวมีกรดซิตริกและวิตามินซีอยู่มาก ซึ่งกรดซิตริกในน้ำมะนาวก็มีฤทธิ์ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการกระหายน้ำ ช่วยให้ลำคอชุ่มชื้น และวิตามินซียังมีสรรพคุณช่วยแก้อาการหวัดได้อีกด้วย ยิ่งเมื่อจิบน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นและน้ำผึ้งด้วยแล้ว ฤทธิ์คล้ายยาปฏิชีวนะในน้ำผึ้ง และสารสกัดกระชายขาวก็จะช่วยกำจัดเชื้อไวรัสบรรเทาอาการไอได้
  2. แก้เจ็บคอ อาการเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เหมือนจะไข้ขึ้น ลองจิบน้ำผึ้งมะนาวอุ่น ๆ โดยบีบมะนาวครึ่งลูก ผสมในน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟ และตักน้ำผึ้งสัก 2 ช้อนชาลงไปคนให้เข้ากัน ทั้งวิตามินซี กรดซิตริก และสารสกัดกระชายขาวมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส น้ำผึ้งช่วยให้ชุ่มคอ ก็จะบรรเทาอาการเจ็บคอที่เป็นอยู่ได้
  3. ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร การดื่มน้ำกระชายผึ้งมะนาวก็ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร เพราะสารสกัดกระชายขาว (เหง้า) มีส่วนช่วยช่วยในการย่อยอาหาร รักษาระบบการย่อยอาหารให้เกิดความสมดุล และน้ำผึ้ง มีฤทธิ์คล้าย ๆ โพรไบโอติก จึงช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ได้ น้ำผึ้งจึงช่วยกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายในลำไส้ได้พอสมควรด้วย นอกจากนี้มะนาวเองก็เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อด้วยอีกทาง
  4. แก้ท้องผูก มะนาวมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไสัได้ในบางคน เพราะจัดเป็นยาระบายอ่อน ๆ ซึ่งหากต้องการจะดื่มน้ำมะนาวแก้ท้องผูก แนะนำให้ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้งแทนการใส่น้ำเชื่อมหรือน้ำตาล เพื่อช่วยลดปริมาณแคลอรีและปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายจะได้รับ และข้อสำคัญคือต้องจิบน้ำผึ้งมะนาวในช่วงเช้า ก่อนอาหารเช้าได้จะยิ่งดี ซึ่งจะช่วยระบายท้องได้ดีกว่าการใช้ยาระบาย
  5. ป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจากการที่ร่างกายติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งภาวะนี้มักจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงมีขนาดสั้น และอยู่ใกล้กับทวารหนัก โอกาสติดเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักจึงมีมากกว่าเพศชาย แต่โรคนี้มีกระชายและมะนาวช่วยป้องกันได้ เนื่องจากกระชายมีช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการขัดเบา มะนาวเป็นสมุนไพรที่มีโพแทสเซียมค่อนข้างสูง และสารชีวเคมีตัวนี้ก็มีฤทธิ์ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะและตับออกไปได้
  6. ปลุกความสดชื่นให้ร่างกาย รสชาติเปรี้ยวอมหวานของน้ำผึ้งมะนาวและสารสกัดกระชายขาวก็ยังช่วยปลุกความสดชื่น เพราะในน้ำผึ้งมีฟรุกโตสและกลูโคสจากธรรมชาติแท้ ๆ ร่างกายจึงดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ง่าย จากที่รู้สึกเพลีย ๆ อ่อนแรงก็จะกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น อีกทั้งกลิ่นซิตรัสและรสชาติเปรี้ยว ๆ ของมะนาวก็ยังช่วยเติมความรู้สึกสดชื่นได้โดยผ่านทางระบบประสาทสัมผัส

ส่วนผสม น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว

  • น้ำดื่ม 5 ลิตร
  • กระชายสด 1 ขีด (100 กรัม)
  • น้ำผึ้ง 5-6 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำน้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว

  1. นำกระชายมาล้างทำความสะอาด และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่น้ำเล็กน้อย นำไปปั่นประมาณ 1-2 นาที นำมากรอง 2-3 รอบเอาเนื้อกระชายและฟองออกให้หมด ถ้าไม่หมดจะทำให้มีรสขม จะได้หัวเชื้อน้ำกระชายที่หอมละมุน
  2. ผสมกับน้ำดื่มสะอาด หรือน้ำต้มที่เย็นแล้ว
  3. ผสมด้วยน้ำผึ้ง มะนาว และเกลือ (ใส่หรือไม่ก็ได้) ชิมรสตามความชอบ เก็บแช่เย็นได้ 3-4 วัน จะดื่มแบบเย็นชื่นใจ หรืออุ่นร้อนก็หอมมาก

Tip: น้ำกระชายไม่ควรเก็บไว้นานมาก เพราะจะทำให้ความซ่าและความหอมของกระชายลดน้อยลง ทำให้เกิดตะกอนที่ก้น ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรดื่มให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะได้ทั้งรสชาติที่ซ่า ดื่มแล้วชื่นใจ พร้อมสรรพคุณอีกเต็ม ๆ ด้วย แต่สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำกระชายแล้วมีอาการแปลก ๆ ร้อนวูบวาบ หรือมีอาการเหงื่อออกหรือเรอออกมาก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ หากดื่มไปสักพักเดี๋ยวก็ชินไปเอง

ข้อควรระวังเกี่ยวกับกระชายขาว

การทานพืชสมุนไพร เพื่อป้องกันหรือลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีงานวิจัยและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ดังนั้นควรเลือกรับประทานสมุนไพรพื้นบ้านเหล่านี้อย่างระมัดระวัง การบริโภคกระชายขาวโดยทั่วไป เช่น ทำอาหาร หรือดื่มน้ำกระชายขาว ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่บริโภคต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลายาวนาน ยังคงมีความปลอดภัย

ทั้งนี้ระยะเวลาที่รับประทานต่อเนื่องนั้นไม่มีระบุชัดเจน ในบางตำราแพทย์แผนไทยแนะนำว่าไม่ควรรับประทานต่อเนื่องเกิน 7 วัน เนื่องจากกระชายขาวมีฤทธิ์ร้อน อาจส่งผลให้เกิดอาการร้อนใน เป็นแผลในปาก จากการศึกษาพบว่า การบริโภคกระชายขาวมากๆ มีผลทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่นและเกิดภาวะใจสั่นได้

ในกรณีต้องการรับประทาน สารสกัดจากกระชายขาว เข้มข้น หรือสารสกัดสมุนไพรอื่น ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพได้

ข้อควรระวังก่อนรับประทาน กระชายขาว

  1. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ ตับและไต
  2. เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
  3. ผู้ที่ใช้ยารักษาโรคประจำตัว เช่น ยาลดความดันโลหิตสูง ยาเบาหวาน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อโรคประจำตัวและยาที่ทานอยู่เป็นประจำ
  4. ผู้ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด
  5. ผู้ที่มีโรคเกล็ดเลือดต่ำ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือเกล็ดเลือด
  6. ผู้ที่ป่วย มีไข้ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง
  7. ไม่แนะนำให้รับประทานฟ้าทะลายโจร คู่กับ กระชายขาว ต้องคำนวณปริมาณให้เหมาะสมหรือให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้แนะนำ

สรุป ถึงแม้ว่า กระชายขาว มีสรรพคุณ ประโยชน์ ช่วยรักษา บรรเทาอาการต่างๆได้มากและยังมีผลการทดลอง งานวิจัยสารสกัดกระชายขาวสามารถยังยั้งเชื้อไวรัสโควิด – 19 ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การรับประทานกระชายขาว ก็ควรที่จะทานอย่างพอดี เเละเหมาะสม ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นหากมีความต้องการในการรับประทาน กระชายขาว ไม่ว่าจะในรูปแบบประกอบอาหาร หรือเเบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบเม็ดเเคปซูล เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควรได้รับคำเเนะนำจากบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ หรือ เภสัชกรก่อนการใช้ยา