อาการปวดหัวเกิดได้หลายสาเหตุ บางรายป่วยด้วยโรคประจำตัวต่างๆ แต่บางทีการใช้ชีวิตประจำวันก็อาจทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน วันนี้แอดมินจะนำสาเหตุจากการปวดหัวมาให้ทุกท่านได้ทราบ  รู้สาเหตุ และแก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัวที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ปวดหัวเกิดจาก

1.เครียดบ่อย

หากสังเกตดีๆ เมื่อไหร่ที่เครียดจะรู้สึกปวดหัวตุบๆหนักๆ ที่ขมับทั้งสองข้าง ปวดตื้อๆ บางคนอาจปวดต้นคอ ไหล่ และหลังร่วมด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าคุณกำลังอยู่ในความเครียด กดดัน หรือวิตกกังวล ลองผ่อนคลายด้วยการหากิจกรรมทำหรือออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ดูบ้าง

2.พักผ่อนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวตุบๆ ได้ในตอนเช้า นอกจากนี้ยังทำให้รู้สึกไม่อยากตื่น อ่อนเพลีย ตื่นเช้ามาไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า อาจนำมาซึ่งความเครียด หงุดหงิดง่ายอีกด้วย ทางที่ดีควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงจะดีที่สุด

3.อากาศร้อนอบอ้าว

จริงๆ แล้วอากาศเป็นตัวกระตุ้นการปวดศีรษะชั้นดีเลยทีเดียว เพราะเมื่ออากาศร้อนขึ้น ความชื้นและความดันเปลี่ยนแปลงไป

ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการสร้างสารเคมีในสมองซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการปวดศีรษะได้

4.ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

เพราะฮอร์โมนเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้ โดยเฉพาะฮอร์โมนในช่วงมีรอบเดือน สาวๆ หลายคนมักมีอาการปวดศีรษะช่วงมีประจำเดือน นั่นก็เพราะว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการลดระดับลง ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ

5.กินเนย ช็อกโกแลต อาหารรสจัด

เรียกได้ว่าอาหารเป็นส่วนสำคัญที่สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้ ซึ่งอาหารเหล่านี้ หากทานในปริมาณมากๆ ก็ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ เช่น เนยแข็ง ช็อกโกแลต หอมหัวใหญ่ อาหารที่มีรสเค็มและใส่ผงชูรส อาจทำให้บางคนปวดศีรษะได้เช่นกัน

6.ออกกำลังกายมากเกินไป

จริงอยู่ที่การออกกำลังกายนั้นดีต่อสุขภาพแต่การหักโหมมากเกินพอดีก็ทำให้สุขภาพแย่ลง แถมยังทำให้ปวดศีรษะได้ เพราะการออกกำลังกายจะเพิ่มเลือดไหลเวียนไปที่ศีรษะและคอ หากออกกำลังมากเกินไปอาจส่งผลให้เส้นเลือดบวมกระตุ้นอาการปวดศีรษะได้  ดังนั้นควรออกกำลังกายแต่พอดีเพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียดได้อีกด้วย

7.ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

คนทำงานออฟฟิศที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ โดยไม่พักสายตา มักมีอาการหนักหัว ปวดกระบอกตา ซึ่งอาการส่วนใหญ่มักแสดงให้เห็นช่วงบ่ายหรือใกล้เลิกงาน เนื่องจากใช้สายตามาทั้งวัน บางคนอาจรู้สึกเวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย แนะนำว่าควรพักสายตาทุกๆ 20-30 นาที และเปลี่ยนอริยาบถบ่อยๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายไปในตัว

ในแต่ละวันเราใช้สายตาไปกับการจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือหลายชั่วโมง ทำให้ต้องเกร็งดวงตาและสายตา ส่งผลให้ปวดหัวหรือปวดกระบอกตาได้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อคอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการปวดหัวได้นั่นเอง ดังนั้นจึงควรพักสายตาจากการจ้องอุปกรณ์เหล่านี้ทุก 10-15 นาที กะพริบตาให้บ่อยขึ้น มองออกไปนอกหน้าต่าง ให้ดวงตาได้พักบ้าง

อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน บางครั้งอาการปวดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถหายได้เองในระยะเวลาไม่นาน แต่เมื่อไหร่ที่เกิดความผิดปกติก็ไม่ควรละเลย เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่นๆ ตามมา