ช่วงปลายฝนต้นหนาวเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน อากาศเย็นชุ่มฉ่ำแต่แฝงด้วยโรคร้ายที่มากับน้ำฝนและสภาพอากาศที่แปรปรวน กรมควบคุมโรคประกาศเตือน 5 โรคเสี่ยงสุขภาพแย่ช่วงหน้าฝน

ฤดูฝน เป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง สภาพอากาศเย็น และความชื้นจากสภาพอากาศที่เปลี่ยน ยังเป็นสาเหตุของเชื้อโรคที่แพร่กระจายในอากาศได้ หรือแม้แต่การสัมผัสถูกเชื้อก่อโรค หรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อก่อโรคเข้าไป หลายกลุ่ม ได้แก่

1.โรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ โรคที่มาจากร่างกายได้รับหรือสัมผัสเชื้อไวรัส หน้าฝนสภาพอากาศค่อนข้างชื้น มีลมพัดแรง มีผลทำให้เชื้อไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศจากผู้ป่วยที่มีอาการ ไอ จาม ได้ เมื่อมีการสัมผัสสิ่งของ หรือสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยเข้าสู่งร่างกายแล้วก็จะทำให้มีอาการเจ็บป่วยไข้เกิดขึ้น ได้แก่

  • โรคไข้หวัดใหญ่
  • โรคหลอดลมอักเสบ
  • โรคปอดอักเสบ และปอดบวม

2.โรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินอาหาร

  • โรคที่มากับอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด จากการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคเข้าไปในระบบทางเดินอาหารที่ลำไส้ อาหารเป็นพิษ ทำให้เกิดอาหารขับถ่ายเป็นน้ำ ท้องเสีย มีไข้ ปวดบิด อุจจาระเฉียบพลัน
  • โรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอและชนิดบี เกิดจากการรับประทานที่มีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสตับทั้งชนิดเอและชนิดบี ทำให้ผู้ป่วยมีไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ตัวเหลือง ตาเหลืองหรือดีซ่าน มีผลทำให้ตับอักเสบ

3.โรคที่ติดต่อทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง สาเหตุจากการสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อน จากน้ำท่วมขัง น้ำเสียจากท่อระบายน้ำ น้ำที่ปนเปื้อนสิ่งปฏิกูลทั้งจากคนและสัตว์ สัมผัสดิน สัมผัสอาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของของสัตว์ที่ติดเชื้อ ได้แก่

  • โรคแลปโตสไปโรซิส หรือที่รู้จักกันในนาม “โรคฉี่หนู”
  • และโรคตาแดง

4.โรคติดต่อที่เกิดจากยุง ไม่ว่าจะเป็นยุงลาย ยุงรำคาญ หรือยุงก้นปล่อง เป็นพาหะของโรคนี้ เกิดจากพื้นที่มีน้ำขัง แหล่งน้ำต่างๆ อาการที่แสดงออกส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะมีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ หากเป็นหนักอาจถึงขั้นช็อค หมดสติและเสียชีวิตได้

  • โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหาะนำโรค
  • โรคไข้สมองอักเสบ เจอี มียุงรำคาญเป็นพาหะนำโรค
  • โรคมาลาเรีย มียุงก้นปล่องเป็นพาหานำโรค

5.โรคมือ เท้า ปาก โรคนี้มักจะพบในเด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 5 ขวบ เป็นโรคที่มีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร มีอาการเป็นไข้ เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า และลำตัว อาการจะแสดงหลังรับเชื้อประมาณ 3-6 วัน ปัจจุบันได้มีวัคซีนป้องกันโรคนี้แล้ว

การป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดสามารถทำได้ทันที เพื่อบรรเทาอาการรุนแรงของโรคได้ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำสะอาด รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาดและใช้ช้อนกลางเสมอ

แต่สำหรับใครที่มีเวลาน้อย ต้องทำงานและร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคที่กล่าวมาแล้วนั้น สามารถหาอาหารเสริมและวิตามิน ทานเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นๆ มาตรฐานสูง มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญผ่านการควบคุมและตรวจสอบมาตรฐานจากหน่วยงานเป็นที่ยอมรับ

M MED กระชายพลัส ด้วย 4 สารสกัดส่งเสริมภูมิคุ้มกัน

เอ็มเมดกระชายพลัส

ส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานอย่างเป็นปกติ

สารสกัดกระชาย สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและลดไข้ บำรุงร่างกาย มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต

สารสกัดเบต้ากลูแคน มีส่วนช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและการติดเชื้อ

เสริมประสิทธิภาพด้วยสารสกัดวิตามิน นานาชนิด อย่าง

วิตามินซี วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ลดอาการภูมิแพ้ บรรเทาอาการหวัด

วิตามินบี 1 และวิตามินบี 12 ช่วยบำรุงประสาท เสริมสร้างพลังงาน ลดอาการอ่อนเพลีย

รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร

#MMED #MMEDMahidol #MSTSTANDARD

#มหาวิทยาลัยมหิดล #mahidol

#ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพคุณภาพจากมหาวิทยาลัยมหิดล

#สุขภาพที่ดีคือความสุขที่แท้จริง

#สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญส่งเสริมภูมิคุ้มกันด้วยเอ็มเมด