หลายคนคงเคยรู้สึกหน้ามืดเวลาลุกขึ้นยืนเร็วๆ กันมาบ้างใช่ไหมคะ? ซึ่งอาการนี้ถือว่าค่อนข้างปกติหากเราเปลี่ยนท่าจากท่านั่งหรือนอนมาเป็นท่ายืนเร็วๆ การเปลี่ยนท่าอย่างฉับพลันจะทำให้ความดันโลหิตในร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนเกิดอาการหน้ามืดได้ค่ะ แต่หากใครที่มีอาการลุกแล้วหน้ามืดบ่อยๆ ผิดปกติ ก็อาจมาจากปัจจัยอื่นๆ ก็เป็นได้ มีอะไรบ้างมาอ่านกันค่ะ

สาเหตุจากการหน้ามืด ขณะยืนหรือนั่ง

  1. ความดันโลหิตต่ำ: เมื่อเปลี่ยนท่าจากนอนหรือนั่งเป็นยืน ความดันโลหิตจะลดต่ำลงชั่วคราว ทำให้เกิดอาการหน้ามืด
  2. ร่างกายขาดน้ำ: ไม่ว่าจะเป็นจากการดื่มน้ำน้อย ขาดน้ำหลังจากอาเจียน ท้องเสีย ออกกำลังกายหนัก หรืออยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน
  3. เพิ่งกินอาหารมาอิ่มๆ: หลังจากทานอาหารเสร็จ ร่างกายเราจะส่งเลือดไหลเวียนไปยังกระเพาะเพื่อย่อยอาหาร ทำให้เลือดไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายน้อยลง
  4. ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาขับปัสสาวะ หรือยาชนิดอื่นๆ ที่มีผลข้างเคียงต่อระดับความดันโลหิต
  5. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ วิสกี้ หากดื่มในปริมาณมาก อาจมีอาการมึนเมาและหน้ามืดได้
  6. นอนบนเตียงนานๆ เช่น ในผู้ป่วยที่นอนพักรักษาตัวบนเตียงนานๆ หรือเพิ่งฟื้นไข้ใหม่ๆ
  7. โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ: อาทิ โรคลิ้นหัวใจ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ
  8. สาเหตุจากโรคอื่นๆ เช่น โรคทางต่อมไทรอยด์ โรคพาร์กินสัน และภาวะโลหิตจาง

หากหน้ามืดบ่อยๆ ลองทำตามนี้! 

  • ค่อยๆ ลุกช้าๆ ไม่ต้องรีบ หากเริ่มจากการนอน ก็ควรลุกนั่งก่อนและรอสักครู่ก่อนแล้วค่อยลุกขึ้นยืน
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น ดื่มน้ำสม่ำเสมอประมาณ 2 ลิตรต่อวัน แต่ลดปริมาณก่อนนอนเพื่อไม่ให้ปวดปัสสาวะกลางคืน
  • ออกกำลังกาย โดยเฉพาะคาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ทำให้หัวใจแข็งแรง เลือดไหลเวียนดี
  • กินอาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยๆ และปรับโภชนาการ เช่น ลดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตลง
  • ปรับยาตามคำแนะนำแพทย์ หากใช้ยาที่มีผลข้างเคียงต่อความดันโลหิต ควรปรึกษาแพทย์